หากอยากชนะเดิมพัน สิ่งแรกที่ควรทำคือ อย่าเดิมพันฝั่งเสมอเด็ดขาด ไม่ใช่ว่าไม่ชอบที่เล่นชนะฝั่งเสมอ แต่เป็นเพราะว่าการลงเดิมพันฝั่งเสมอเพื่อชนะได้เงินจำนวนมาก เปรียบเหมือนการวางเงินบนอัตราได้เปรียบของเจ้ามือที่ 14% ที่มองเห็นโอกาสชนะได้ยากมาก
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในการเล่นบาคาร่า Prettygaming
สิ่งที่ควรรู้คือโอกาสชนะ แม้จะเห็นชัดอยู่แล้วว่าโอกาสชนะอยู่บนการเดิมพันแค่ 2 ตัวเลือกคือฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือ แต่โอกาสชนะของแต่ละฝั่งกลับแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย ดังนี้
- ฝั่งเจ้ามือ – 843%
- ฝั่งผู้เล่นr – 44.615%
- ฝั่งเสมอ – 543%
*และยังมีคอมมิชชั่น ที่ต้องถูกหักหลังจากชนะเดิมพันฝั่งเจ้ามืออีกด้วย จึงเป็นสิ่งที่ผู้เล่นควรรู้ก่อนวงเดิมพัน
-
การเดิมพันฝั่งเจ้ามือ
เนื่องจากมีโอกาสชนะที่สูงกว่า การเดิมพันฝั่งเจ้ามือจึงเป็นตัวเลือกแรกเมื่อจะใช้เทคนิคการเล่น บาคาร่า มือโปรบาคาร่ามักแนะนำผู้เล่นให้วางเดิมพันฝั่งเจ้ามือ เนื่องจากมีโอกาสชนะเดิมพันมากกว่า 50% จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มีการเก็บคอมมิชชั่นในทุกครั้งที่มีคนเดิมพันฝั่งเจ้ามือแล้วชนะ
- แต่ถึงแม้จะถูกหักคอมมิชชั่นไป ก็ยังเป็นตัวเลือกที่หลายคนเลือกใช้อยู่ดี ไม่ว่าจะนักเล่นมือใหม่หรือมือโปรก็ตาม และผู้เชียวชาญก็ยังแนะนำให้ผู้เล่นเดิมพันฝั่งเจ้ามือไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะแพ้ เนื่องจากมีโอกาสที่จะชนะต่อเนื่อง และเมื่อแพ้เดิมพันฝั่งเจ้ามือแล้ว ผู้เล่นควรรอหนึ่งตาแล้วค่อยเริ่มวางเดิมพันใหม่ในฝั่งผู้เล่นแทน
- จำไว้เสมอว่าผู้เล่นจะชนะต่อเนื่องหรือแพ้ติดกัน มันก็แค่ความเข้าใจผิดจากการที่นักพนันคิดว่าการเดิมพันที่มีโอกาสเล่นได้เท่ากันกับเล่นเสียในเกมแบบนี้ หลังจากผลออกตัวเดิมแบบต่อเนื่องแล้ว ครั้งต่อไปผลจะออกฝั่งตรงข้าม ไม่มีหลักฐานทางคณิตศาสตร์หรือข้อพิสูจน์อื่น ๆ ที่บอกว่ามันมีความเกี่ยวข้องกัน ดังนั้น ผู้เล่นไม่ควรคิดจะอาศัยหลักการนั้นในการวางเดิมพันโดยเด็ดขาด
-
การเดิมพันฝั่งผู้เล่น
แม้ว่าการเดิมพันฝั่งเจ้ามือจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าเดิมพันโดยใช้กลยุทธ์แล้วละก็ ผลจะออกมาแตกต่างเล็กน้อย ขณะที่การชนะรางวัลจากการเดิมพันฝั่งเจ้ามือต้องเสียคอมมิชชั่น 5% จะทำให้ได้กำไรน้อยกว่าถ้าเล่นโดยการทบยอดเดิมพัน
- สมมุติว่าผู้เล่นกำลังวางเดิมพันด้วยระบบมาติงเกล ผู้เล่นก็ต้องวางเดิมพันเป็นเท่าตัวจากยอดเดิมฝนทุกครั้งที่เล่นแพ้ ถ้าเล่นเสีย 4ครั้งติดจากการเดิมพันเริ่มต้นที่ 100 บาท หมายความว่าเล่นเสียไป 1,500 บาท (100 + 200+ 400+800)
- รอบถัดมา ผู้เล่นลงเดิมพันอีกครั้งในฝั่งเจ้ามือโดยใช้เงิน 1,600 บาท แล้วชนะ จะได้เงินคืนทั้งหมด 3,040 บาท ซึ่งมาจากเงินเดิมพัน 1,600 บาท + เงินชนะรางวัล 1,600 บาทและหักคอมมิชชั่นออก 5% แต่พอคิดยอดเงินที่ลงทุนไปทั้งหมดจะเป็นเงิน 3,100 บาท (100 + 200+ 400+800+16,00)
- แสดงให้เห็นว่าต่อให้เล่นชนะเดิมพัน ก็ยังไม่เท่ากับเงินใช้เล่นไปทั้งหมด และด้วยการทบยอดเงินเชิงลบและการหักคอมมิชชั่น จะทำให้ผู้เล่นขาดทุนไป 6 หน่วย
- แต่ถ้าเป็นการเล่นเสียต่อเนื่องในการเดิมพันฝั่งผู้เล่น กลับมีกำไรได้ ยูนิต นั่นคือ 100 บาทนั่นเอง จะเห็นได้ว่าถึงแม้การเดิมพันฝั่งผู้เล่นจะมีโอกาสชนะน้อยกว่า แต่กลับเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าถ้าเป็นการเดิมพันโดยใช้ระบบการเล่น
-
การเดิมพันฝั่งเสมอ
เป็นที่ทราบกันดีว่าบาคาร่าเป็นเกมคาสิโนที่มีอัตราได้เปรียบของเจ้ามือต่ำกว่าเกมพนันอื่น แต่การเดิมพันฝั่งเสมอก็อาจทำให้ความเข้าใจนี้เปลี่ยนไปได้
- การเดิมพันฝั่งเจ้ามือจะมีอัตราได้เปรียบของเจ้ามือเพียง 06% ขณะที่การเดิมพันฝั่งผู้เล่นก็เป็นตัวเลือกที่ดีด้วยอัตราได้เปรียบของเจ้ามือที่ 1.26% ส่วนการเดิมพันฝั่งเสมอกลับมีอัตราได้เปรียบของเจ้ามืออยู่ที่ 14.4% ซึ่งขัดกับตรรกะและการคิดเชิงวิพากษ์ โดยทั่วไป
- การเดิมพันที่มีโอกาสชนะน้อยกว่า 10% และโอกาสจะได้เงินคืนมีเพียง 14 ใน 100 ยูนิตนั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่นัก จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมทางที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการเดิมพันฝั่งเสมอและลงเดิมพันเหมือนว่าไม่มีตัวเลือกนี้อยู่
หากแต้มออกมาเสมอ เงินที่วางเดิมพันไว้จะไม่ถูกเก็บไป ก็แค่ยังอยู่ที่เดิมเพื่อรอผลในรอบต่อไป
ไม่ผิดที่จะใช้ระบบเดิมพันในการเล่นบาคาร่าถ้าเล่นเป็น
หลักการเล่นที่ใช้ในเกมพนันบนโต๊ะและเกมไพ่อื่นๆสามารถนำมาใช้กับบาคาร่าได้ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ง่ายๆอย่าง ระบบดาล็องแบร์(D’Alembert) หรือจะเป็นกลยุทธ์ที่ซับซ้อนมากกว่าอย่าง ระบบลาบูร์แชร์ (Labouchere) ที่จะช่วยให้ผู้เล่นมีโอกาสชนะได้ในการเล่นบาคาร่า ซึ่งผู้เล่นบางคนก็ใช้ระบบทบเงินเชิงบวกอย่าง ระบบพาโลรี(Paroli) หรือระบบทบเงินเชิงลบด้วย รวมถึง ระบบฟิโบนาคชี่(Fibonacci)
ระบบทบเงินเชิงบวก
การใช้ระบบทบเงินเชิงบวกคือการที่ผู้เล่นต้องเพิ่มยอดเงินเดิมพันทุกครั้งที่เล่นได้ และลดเงินเดิมพันทุกครั้งที่เล่นเสีย การเล่นด้วยระบบทบเงินเชิงบวกนี้จะทำให้ทุนในการเล่นของผู้เล่นขาดทุนน้อยกว่าการเดิมพันด้วยระบบทบเงินเชิงลบ เพราะระบบทบเงินเชิงบวกนี้จะเพิ่มเงินชนะรางวัลให้ผู้เล่นได้ถ้ามีการชนะต่อเนื่อง และทำให้เสียน้อยที่สุดหากเล่นเสียต่อเนื่อง
ตามทฤษฎีแล้ว หากผู้เล่นเล่นได้ติดต่อกัน เป็นไปได้ที่จะได้กำไร และจะช่วยให้เสียเงินน้อยลงหากมีการเล่นเสียต่อเนื่อง ระบบทบเงินเชิงบวกนี้จะไม่มีผลในการเพิ่มโอกาสชนะหรือทำให้แพ้ และไม่มีความเสี่ยงใด ๆ สำหรับผู้เล่นเลย
ระบบทบเงินเชิงลบ
ระบบทบเงินเชิงลบจะตรงกันข้ามกับระบบทบเงินเชิงบวกและอาจส่งผลเสียกับเงินทุนในการเล่นของผู้เล่นด้วย หลักการของระบบนี้คือ ผู้เล่นจะทำการทบเงินเดิมพันเพิ่มทุกครั้งที่เล่นเสีย และลดเงินเดิมพันหลังจากเล่นได้ หากมองผิวเผิน อาจคิดว่าสมเหตุสมผลและนักพนันหลายคนก็อยากลองเล่นด้วยระบบนี้เช่นกัน
- ทฤษฎีของระบบนี้คือเมื่อทบเพิ่มเงินเดิมพันขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าจะชนะ และหากชนะเมื่อไหร่ ผู้เล่นจะได้เงินเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว
- แต่ถ้ามองดี ๆ แล้ว จะเห็นว่าระบบการทำงานของมันมีข้อเสียไม่น้อย หากเล่นระบบนี้ไปเรื่อย ๆ แต่ยังไม่ชนะสักที มีโอกาสสูงที่ผู้เล่นจะเงินหมดเสียก่อน ยิ่งถ้าผู้เล่นต้องเดิมพันอีกเท่าตัวจากรอบที่แล้ว ยิ่งเสี่ยงใหญ่เลย นอกจากนี้ อย่าลืมคิดถึงยอดเงินสูงสุดที่ลงเดิมพันได้ด้วย
- ถึงแม้ผู้เล่นจะมียอดเงินมากพอที่จะทบเพิ่มเดิมพันต่อไปเรื่อย ๆ แต่จะมีการกำหนดจำนวนเงินเดิมพันสูงสุดไว้อยู่แล้ว ซึ่งอาจทำให้ผู้เล่นไม่สามารถเพิ่มเงินเดิมพันได้จนสามารถได้เงินที่เล่นเสียไปคืนทั้งหมด หากไม่มีประสบการณ์ที่เพียงพอแล้วละก็ การเล่นด้วยระบบนี้อาจเป็นหายนะของผู้เล่นได้ หากคิดจะใช้การเล่นแบบนี้กับเกมบาคาร่า prettygame
บทสรุปของสิ่งที่ควรทำและควรหลีกเลี่ยงสำหรับการเล่นบาคาร่า Prettygame
ในการเล่นบาคาร่า โอกาสถือเป็นสิ่งสำคัญ ผู้เล่นควรเลิกเล่นทันทีที่ใช้งบที่ตั้งไว้หมดแล้วโดยไม่เกี่ยวว่าจะเล่นได้หรือเล่นเสีย แล้วพักสักหน่อยก่อนจะกลับไปเล่นอีก หากเล่นได้ ให้แบ่งครึ่งเงินที่ได้นั้นเก็บไว้แล้วใช้เงินเพียงครึ่งเดียวในการเล่นครั้งต่อไป เพราะหากเล่นเสียอย่างน้อย ๆ ก็ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่งในกระเป๋ากลับบ้าน
จำไว้ว่าการพนันเป็นกิจกรรมเพื่อความบันเทิง เราควรจะเล่นด้วยความสนุกและเล่นให้ได้สังคมโดยไม่เล่นเกินงบที่ตั้งไว้ ซึ่งถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลเสมอ